บริการทำความสะอาด: เทคนิคการซักพรมบ้านที่เหมาะกับพรมแต่ละประเภท เคล็ดลับการซักพรมบ้าน ดูดฝุ่นพรมแต่ละประเภทอย่างไรให้สะอาด ปราศจากไรฝุ่น
พรมคือหนึ่งในของตกแต่งบ้านที่จะช่วยเพิ่มลูกเล่นและความน่าสนใจให้กับบ้านได้มากขึ้น หากเลือกสีและลวดลายของพรม รวมทั้งวัสดุที่ใช้ทำพรมให้เหมาะกับสไตล์ของบ้านและการใช้งานก็จะทำให้บ้านน่าอยู่ขึ้น
นอกจากนี้พรมยังมีประโยชน์ในการช่วยลดเสียงดังจากการเดิน ช่วยซับแรงกระแทกเวลามีของตกลงบนพื้นและช่วยป้องกันพื้นบ้านจากรอยขีดข่วนได้อีกด้วย แต่นอกจากความสวยงามและประโยชน์ที่มีแล้ว การใช้พรมปูพื้นตกแต่งบ้านก็มีเรื่องที่พึงระวังเช่นกัน เพราะพรมนั้นเป็นที่สะสมของฝุ่นและเป็นบ่อเกิดของไรฝุ่น ที่จะส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจและก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ หากบ้านใดมีการปูพรมที่พืัน แล้วขาดการทำความสะอาด หรือการซักพรมบ้านอย่างถูกต้องและเหมาะสมเป็นประจำ ก็ให้ระวังไว้เลยว่า พรมที่บ้านของคุณจะเป็นที่อยู่ของไรฝุ่นตัวร้ายแน่นอน
สำหรับการซักพรมบ้านนั้น สามารถซักพรมและทำความสะอาดพรมได้เองที่บ้าน หรือจะเลือกใช้บริการซักพรมจากบริษัทที่ให้บริการซักพรมและบริการกำจัดไรฝุ่นเฉพาะทางก็ได้
หากคุณเลือกซักพรมบ้านด้วยตัวเอง ก็ควรรู้เทคนิคและวิธีการซักพรมบ้านที่ถูกต้อง เพื่อให้สามารถซักพรมบ้านได้อย่างสะอาดหมดจด ไร้รอยเปื้อน ปราศจากฝุ่นละอองและไรฝุ่น แต่การจะซักพรมบ้านเองที่บ้าน โดยไม่ใช้บริการซักพรมนั้น ก่อนอื่นจะต้องรู้ประเภทวัสดุของพรมที่ใช้เสียก่อนว่าทำจากวัสดุอะไร มีข้อบ่งใช้ในเรื่องการทำความสะอาดหรือซักพรมบ้านชนิดนั้น ๆ อย่างไร ซึ่งการซักพรมบ้านที่ทำจากวัสดุแต่ละประเภท มีวิธีการที่แตกต่างกันดังนี้
การซักพรมบ้านที่ทำจากขนสัตว์
พรมขนสัตว์เป็นพรมที่มีราคาแพงที่สุด เพราะทำจากขนสัตว์ชนิดต่าง ๆ เช่น ขนแกะที่มีความนุ่มฟูน่าสัมผัส โดยสามารถนำพรมขนแกะที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนักไปซักในเครื่องซักผ้าได้ แต่ต้องซักพรมขนแกะกับน้ำอุณหภูมิปกติและน้ำยาซักผ้าสูตรอ่อนโยนเท่านั้น สามารถใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มได้และปั่นแห้งได้ แต่ห้ามนำไปอบร้อนเด็ดขาด เมื่อซักพรมและปั่นพรมจนหมาดน้ำแล้ว ให้นำไปตากในที่ร่ม ห้ามโดนแดด ตามปกติแล้วขนแกะจะมีน้ำมันลาโนลินเคลือบอยู่ตามธรรมชาติ จึงมีคุณสมบัติป้องกันไรฝุ่นได้ดี เลยไม่จำเป็นต้องซักพรมขนแกะบ่อย ๆ แต่หากมีรอยเปื้อนให้ซักพรมเฉพาะจุด ด้วยการนำผ้าสะอาดหรือฟองน้ำชุบน้ำหมาด ๆ แล้วนำมาทำความสะอาดและระหว่างสัปดาห์ก็ควรดูดฝุ่นเพื่อขจัดเศษผงหรือฝุ่นละอองต่าง ๆ บนพรม
การซักพรมบ้าน ประเภทพรมอะคริลิค
พรมอะคริลิคเป็นพรมใยสังเคราะห์ที่ทำขึ้นมาเพื่อทดแทนพรมขนสัตว์ พรมอะคริลิคเป็นพรมที่ไม่อมความชื้นและเกิดคราบสกปรกยาก แต่รองรับน้ำหนักได้ไม่ค่อยดี จึงไม่ควรใช้พรมอะคริลิคในบริเวณที่วางเฟอร์นิเจอร์หนัก ๆ เช่น โซฟา โต๊ะ หรือ ตู้ ส่วนการทำความสะอาด หรือการซักพรมอะคริลิคนั้น สามารถทำได้โดยใช้เครื่องดูดฝุ่น ดูดทำความสะอาดพรมอะคริลิคในขั้นตอนแรก หากเครื่องดูดฝุ่นมีฟังก์ชั่นทำความสะอาดแบบเปียก สำหรับการซักพรมโดยเฉพาะ ก็จะยิ่งทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น แต่หากเครื่องดูดฝุ่นของคุณไม่มีฟังก์ชั่นนี้ ก็สามารถใช้น้ำผสมน้ำยาซักผ้ามาขัดล้างทำความสะอาดและซักพรมได้ โดยใช้แปรงไนลอนขัดทำความสะอาดให้ทั่วพรม เน้นในบริเวณที่มีคราบสกปรก จากนั้นฉีดน้ำความสะอาดให้ทั่ว หากมีหัวฉีดน้ำแรงดันสูง ก็สามารถนำมาใช้ร่วมกันได้ เพื่อชำระล้างสิ่งสกปรกออกจากพรมอะคริลิค ควรทำความสะอาดพรม หรือซักพรมอย่างน้อย 6 เดือนครั้ง
การซักพรมบ้าน ประเภทโพลีโพรพิลีน
พรมโพลีโพรพิลีนเป็นขนที่มีลักษณะเหมือนขนสัตว์ ให้ผิวสัมผัสที่อ่อนนุ่มและรองรับน้ำหนักได้ดี อีกทั้งยังทำความสะอาดง่าย ทนต่อการขีดข่วน จึงเหมาะจะใช้ปูในพื้นที่ที่มีการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ เช่น ห้องนั่งเล่น แต่ควรระวังไม่ให้พรมพรมโพลีโพรพิลีนเลอะคราบน้ำมัน เพราะจะทำความสะอาดยาก
การซักพรมโพลีโพรพิลีนด้วยตนเองสามารถทำได้ง่ายมาก เพียงนำพรมไปปูไว้บนพื้นที่จะทำการซักพรม จากนั้นฉีดน้ำใส่พรมให้ทั่ว แล้วเทน้ำยาล้างจานหรือน้ำสบู่ลงบนพรม จากนั้นใช้แปรงขัดทำความสะอาดพรมให้ทั่ว ฉีดน้ำล้างออกให้สะอาด แล้วตากให้แห้งในที่ร่ม หากมีรอยเปื้อนฝังแน่นที่ซักไม่ออก ให้ใช้น้ำยาซักผ้าผสมกับน้ำส้มสายชูและน้ำสะอาด จากนั้นนำไปขัดถูบริเวณรอยเปื้อนจนกว่าคราบจะออก หรือหากแน่ใจว่าพรมที่ใช้เป็นพรมโพลีโพรพิลีนร้อยเปอร์เซนต์ และเป็นพรมสีขาว สามารถใช้น้ำยาซักผ้าขาวขจัดรอยเปื้อนได้ โดยผสมน้ำยาซักผ้าขาวกับน้ำ 50:50 แต่ไม่แนะนำให้ใช้วิธีนี้กับพรมย้อมสี
การซักพรมบ้าน ประเภทโพลีเอสเตอร์
พรมโพลีเอสเตอร์ให้ความรู้สึกนุ่มฟูและสัมผัสที่สบายผิว อีกทั้งยังทำความสะอาดง่ายและสกปรกยาก เพราะเป็นพรมที่กันน้ำได้ดี คราบสกปรกต่าง ๆ จึงไม่ค่อยฝังแน่น แต่มีข้อเสียคือด้วยขนที่นุ่มฟู จึงรองรับน้ำหนักได้ไม่ดี เลยเป็นพรมที่เหมาะสำหรับปูพื้นหน้าเตียงนอน หรือปูพื้นในโซนที่ต้องการนอนเล่น นั่งเล่นบนพื้นมากกว่า และควรไม่วางเฟอร์นิเจอร์หนัก ๆ บนพรมโพลีเอสเตอร์
ส่วนการทำความสะอาดและซักพรมโพลีเอสเตอร์นั้น เบื้องต้นควรดูดฝุ่นบนพรมทั้งด้านหน้าและด้านหลัง 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ และควรทำความสะอาด หรือซักพรมโพลีเอสเตอร์อย่างน้อยทุก 2 สัปดาห์ หากมีรอยเปื้อน เช่น เครื่องดื่มหกใส่ ให้รีบนำฟองน้ำชุบน้ำสบู่หรือน้ำยาทำความสะอาดพรมชนิดอ่อนโยน มาเช็ดทำความสะอาดบริเวณรอยเปื้อน หลังทำความสะอาด หรือซักพรมเสร็จแล้วให้เป่าพรมให้แห้งทั้งสองด้าน และถ้าต้องการซักพรมบ้านที่ทำจากโพลีเอสเตอร์ ให้นำพรมออกไปซักในพื้นที่ซักล้าง ฉีดน้ำให้พรมเปียกจนทั่ว จากนั้นผสมน้ำกับสบู่เข้าด้วยกัน หรืออาจใช้น้ำยาซักพรมชนิดอ่อนโยนก็ได้ แต่ก่อนซักพรมควรเทสต์น้ำยาซักพรม หรือน้ำสบู่ที่ใช้บนมุมหรือพื้นที่เล็ก ๆ ของพรมเสียก่อน ว่าไม่ทำให้พรมสีตก หากทดสอบแล้วสีไม่ตก จึงค่อยเทน้ำยาหรือน้ำสบู่ลงบนพรม จากนั้นใช้แปรงขนอ่อนขัดพรมเบา ๆ จนสะอาด เทน้ำล้างฟองสบู่หรือน้ำยาจนฟองออกหมด แล้วจึงนำพรมไปตากแดดให้แห้ง
การซักพรมบ้าน ประเภทโพลิเอทิลีน
พรมโพลิเอทิลีนเป็นพรมที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล เช่น ขวดน้ำพลาสติก มีลักษณะเป็นเส้นใยพลาสติกขดตัวเรียงต่อ ๆ กัน มีความทนทานสูง ป้องกันรอยเปื้อนและรอยขีดข่วนได้ดี แต่มีข้อเสียคือไม่อ่อนนุ่มแบบพรมใยสังเคราะห์แบบอื่น ๆ จึงเหมาะจะใช้ในสำนักงาน หรือใช้ในพื้นที่ที่มีการวางเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ บางบ้านอาจใช้วางบริเวณประตูหน้าบ้าน หรือพื้นที่ที่มีการใช้งานอย่างหนัก ไม่ควรปูพรมโพลิเอทิลีนในพื้นที่ที่ต้องการนอนเล่น หรือมีเด็กคลาน เพราะด้วยผิวสัมผัสที่แข็ง จะทำให้ระคายเคืองผิว
ส่วนการทำความสะอาด หรือซักพรมโพลิเอทิลีนนั้นก็ง่ายและสะดวกมาก เพราะพรมชนิดนี้ทนทานและเกิดรอยเปื้อนยาก เพียงดูดฝุ่นทุกสัปดาห์ก็เพียงพอ และอาจซักพรมโพลิเอทิลีน 6 เดือนครั้ง ด้วยการใช้น้ำยาซักผ้า น้ำยาล้างจาน หรือผงซักฟอก ขัดล้างและซักพรมด้วยแปรงที่มีขนแข็ง จากนั้นจึงล้างฟองออกจนสะอาดและนำไปตากแดดให้แห้ง
การซักพรมบ้าน ประเภทไนลอน
พรมไนลอนเป็นพรมที่นิยมใช้งานตามบ้านและตามสถานที่ต่าง ๆ มากที่สุด เช่น โรงแรม หรือศูนย์ประชุม เพราะเป็นพรมที่มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า 10 ปี มีคุณสมบัติกันน้ำ กันรอยขีดข่วนบนพื้น ไม่เกิดเชื้อรา พื้นผิวสัมผัสแม้ไม่ได้นุ่มฟู แต่ก็ยังอ่อนโยนต่อผิว สามารถเดินเท้าเปล่าและนอนเล่นบนพรมไนลอนได้
การทำความสะอาด หรือซักพรมไนลอนนั้น ควรดูดฝุ่นพรมอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง และหากต้องการซักพรมไนลอน ให้ซักด้วยมือเท่านั้น ไม่ควรซักพรมในเครื่องซักผ้าและหากที่บ้านของคุณปูพรมไนลอนเป็นบริเวณกว้าง ควรเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นที่มีฟังก์ชั่นซักพรมจะช่วยประหยัดเวลาได้มาก